วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สีโปสเตอร์เบื่องต้น


อันที่จริงแล้ว จุดประสงค์ในการหยิบยกเอาเรื่องของสีโปสเตอร์ขึ้นมาพูดในเอนทรี่นี้นั้นเนื่องมาจาก ผมมีโปรเจ็คที่จะทำสมุดภาพอิลลัสสี่สีในปีหน้าครับ และก็ตั้งใจไว้ว่าตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปจะพยายามวาดงานลงสีแบบแฮนด์เมดให้ได้เดือนละซัก1รูป แต่ว่าตัวผมเองนั้น ไม่ได้จับงานแฮนด์เมดมาเป็นเวลาก็นานมากแล้ว ส่วนใหญ่ได้แต่สอนหรือแนะนำคนอื่น แต่งานจริงๆของตัวเองนั้นไม่มีเลย เลยอยากจะรื้อฟื้นพื้นฐานงานแฮนด์เมดของตัวเองขึ้นมาใหม่ทั้งหมด
สีโปสเตอร์นั้น เป็นสีที่จริงๆแล้วผมไม่ถนัดสักเท่าไรครับ แต่เนื่องจากมันเป็นพื้นฐานงานระบายสีตระกูลที่ต้องใช้พู่กัน เลยพยายามไม่เลี่ยงที่จะเริ่มต้นจากงานที่เป็นพื้นฐาน ถึงตัวเองจะไม่ค่อยถนัดก็ตาม
เพราะฉะนั้นเอนทรี่นี้จะไม่ใช่how toซะทีเดียว เพราะผมคิดว่าสิ่งที่ตัวเองไม่มั่นใจว่าถนัดนั้น บางทีมันก็ไม่สามารถจะหยิบมาสอนชาวบ้านได้อย่างเต็มปากได้ แต่ถ้าเอนทรี่สีโปสเตอร์ของผมนี้พอจะมีประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่าน ก็จะดีใจมากครับ
อุปกรณ์
สีโปสเตอร์
จานสี
พู่กัน แก้วน้ำล้างพู่กัน
ผ้าเช็ดพู่กัน
สำหรับสีโปสเตอร์นั้น ผมขโมยหลานผมมาใช้ (แต่ผมซื้อให้มันนะ) ซึ่งเป็นสีโปสเตอร์ยี่ห้อซากุระแบบกล่อง ข้างในจะเป็นหลอดสีขนาด12ml.จำนวน12สี (ซึ่งผมว่า สีที่จำเป็นต้องใช้ มีมาให้แค่ไม่กี่สี..) ผมจำราคาไม่ได้แล้ว แต่เวลาใช้งานนั้นค่อนข้างสะดวกดีครับ เพราะก็แค่บีบสีใส่จานสีได้เลย ทำให้ไม่เปลืองสี และไม่สร้างความเลอะเทอะแบบเก่าๆอีกด้วย (ใครเคยทำงานด้วยสีโปสเตอร์ น่าจะทราบกันดี)
ส่วนจานสีนั้น เป็นจานสีของผมเอง ที่ไปเจอมันซุกอยู่ในห้องน้ำ เป็นซากจานสีที่เพิ่งถูกค้นพบในรอบ4ปีที่ผ่านมา(ฮา) ซึ่งเขลอะไปด้วยสีแห้งๆกรังๆ เกาะติดจานสีซะจนไม่อยากจะมานั่งล้างเลย แต่เพราะมันอยู่ในห้องน้ำ ผมเลยลองเอาน้ำยาล้างห้องน้ำมาล้างดู ปรากฎว่ามันกัดสีซะจนล้างออกได้ง่ายมากๆ (ลองเอามาล้างพู่กันดู ก็แจ่มครับ แต่ระวังนิดนึง มันอันตราย)
มาเริ่มต้นเพนท์กัน...
นายแบบของเราวันนี้
(เป็นตัวละครที่ผมออกแบบมาตั้งแต่เริ่มเขียนการ์ตูนส่งสำนักพิมพ์ แต่เพิ่งมีโอกาได้มาเขียนจริงๆตอนนี้เองครับ)
อ้อ เรื่องของกระดาษ ถ้าสังเกตในรูป จะเห็นเส้นสเกลตรงขอบกระดาษด้วย...ใช่ครับ ผมนำกระดาษสำหรับเขียนต้นฉบับการ์ตูนของญี่ปุ่น ซึ่งมีความหนาเพียง130แกรมมาใช้ในการเพนท์สีโปสเตอร์ในครั้งนี้...ถามว่ามันไม่บางเกินไปเหรอ? น้ำมันไม่ซึมเหรอ?....ต้องบอกว่า กระดาษชนิดนี้ ถึงแกรมจะน้อย แต่ก็มีความหนาแน่นของเนื้อกระดาษเยอะมากๆครับ เทียบกับกระดาษปอนด์200แกรมแล้ว ผมว่าสีโปสเตอร์ใช้กับกระดาษเขียนการ์ตูนนี้ดีกว่าเยอะเลย
เรามาว่ากันเรื่องของสีแบบเบสิคๆกันก่อน
สีโปสเตอร์นั้น ถือเป็นสีที่ระบายง่าย เป็นสีเบสิคที่ผมคิดว่าควรจะเป็นสีพื้นฐานของผู้ที่ชื่นชอบการระบายสีน้ำหรือสีอื่นๆเลยทีเดียว แต่จะว่าระบายยากให้ได้แบบสีอื่นๆนั้นก็ว่ายากครับ พื้นฐานการระบายนั้นจริงๆก็ไม่ต่างจากสีอื่น คือ ถ้าเราเข้าใจคุณสมบัติของมัน เราก็จะใช้มันได้ดีขึ้น เข้าใจว่าต้องผสมน้ำมากน้อยแค่ไหน ลงพู่กันยังไง เหมาะกับกระดาษแบบไหน....
แต่ผมก็ไม่ถนัดมันอยู่ดี (ฮา)
เพราะเป็นแบบหลอด เลยบีบใช้สีได้อย่างง่ายๆ และไม่เปลืองครับ
แม้นเนื้อสีจะเหลวอยู่ในระดับที่สามารถนำมาระบายได้เลยนั้น แต่ก็ควรผสมน้ำเล็กน้อยเพื่อให้ระบายได้ลื่นและสะดวกขึ้น ซึ่งก่อนเราจะลงมือทำงานจริง (และยิ่งผมไม่ได้ทำมันมานาน) ก็ควรจะทดสอบระบายสีดูก่อน เพื่อเช็คเนื้อสี
A คือการระบายแบบทึบแสง หนักๆ ข้นๆครับ เนื้อสีบนกระดาษจะมีความหนาแน่นสูง สามารถนำสีอื่นลงไประบายทับหรือเกลี่ยผสม/ไล่สีได้
ส่วนB เป็นการระบายแบบโปร่งๆคล้ายสีน้ำ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบAหรือB เราก็จะต้องใช้มันผสมผสานในงานชิ้นหนึ่งๆอยู่เสมอครับ
อันนี้จะเป็นเทคนิคการระบายแบบเบื้องต้นพื้นๆเลย ก็ควรจะหัดใช้ไว้ให้คล่องครับ ใช้งานจริงจะได้ไม่ติดขัดหรือรู้สึกกลัวที่จะระบาย (ซึ่งจริงๆแล้ว ผมเพิ่งจะมาระบายสีโปสเตอร์เป็นก็ตอนอายุ19-20นี่เอง)
และเพราะสีขาวหมด...ผมเลยต้องใช้สีgouacheสีขาวแทนครับ แทบจะไม่ได้ใช้เลยเหลือเต็มขวดเลย (แต่แพง ขวดละร้อยกว่าบาท)
*สีgouache คือสีฝุ่นบริสุทธ์พร้อมใช้งานครับ กลิ่นของสีชนิดนี้จะแอบหอมนิดๆแบบมีเอกลักษณ์ ราคาจะแพงกว่าสีโปสเตอร์(ผมเลยยังไม่ซื้อมาใช้) แต่จะเกลี่ยสีได้ง่ายกว่า เพราะเนื้อสีละเอียดและเนียนมากๆเวลาแห้ง อีกทั้งเก็บไว้ได้นานกว่าสีโปสเตอร์โดยไม่ต้องกลัวมันจะแห้งคาขวดเลย (อย่างขวดนี้ ผมเปิดใช้ครั้งล่าสุดก็ประมาณ3ปีที่แล้ว)
ถ้าสีโปสเตอร์ไม่รุ่ง ผมจะหันไปยุ่งกับgouacheแทน (ฮา)
ก่อนอื่นมาผสมสีกันก่อน
ผมผสมสีเนื้อไว้2สี หลักๆนั้นใช้สีเนื้อpale orange, สีเหลือง, สีเนื้อตาลyellow ochre และสีขาวในการผสมสีน้ำแบบต่างๆ แต่ที่ผสมไว้2สีนี้ จะใช้ระบายสีเนื้อสีพื้นกับเงาระดับที่1ก่อน
(เวรกรรม ลืมเปิดแฟลช)
ผมใช้สีๆเดียวซึ่งเป็นสีเนื้ออมเหลือง สร้างน้ำหนักโดยรวมก่อน แต่รู้สึกว่าจะระบายง่ายเป็นพิเศษเพราะได้สีขาวgouacheช่วย ทำให้สีออกมาค่อนข้างเรียบดี
แล้วต่อมาก็ใช้สีเนื้ออีกสี ซึ่งเป็นสีเนื้ออมชมพู ระบายเน้นส่วนที่เป็นเงาลงไป เพื่อให้ภาพดูสดใสและดูมีน้ำมีนวลมากขึ้นครับ
แสงเงาตรงไหนยังขาดๆเกินๆ ก็ใส่ให้เรียบร้อยครับ
แล้วจากนั้นก็ใส่เงาให้มันดูหม่นลงอีกนิด เพื่อไม่ให้ภาพมันดูแจ๊ดจนเกินไป
ซึ่งผมได้ใช้สีน้ำตาลyellow ochreผสมลงไปในสีเนื้ออีกเล็กน้อย แต่ทำไมมันออกมาเขียวๆไงไม่รู้แฮะ...
...........................
แต่แล้วพอทำๆไป เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อผมจะระบายปากให้มันอมชมพู....
ชมพูเกิน.....แล้วพอยิ่งแก้ ช่วงปากก็ยิ่งเน่าครับ ลามไปเลอะช่วงใต้ปาก ทีนี้ไปกันใหญ่เลย...
หลังจากงมแก้อยู่พักใหญ่ ก็ระบายตาต่อ (สังเกตช่วงใต้ปากกับคอดีๆ มันจะดูเนียนๆแบนๆแปลกๆ เพราะแก้แล้วทำเน่าไปหลายรอบเลย...)
ส่วนของตานี่ก็ไม่่มีอะไรมากครับ ระบายตามปกติทั่วๆไป เพราะมาถึง ณ ตอนนี้ เรื่องวิธีการเกลี่ยการใช้สี น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว
รูปนี้ผมไม่ได้ใช้สีดำครับ ที่เห็นคิ้วกับขอบตานั่น เป็นสีน้ำตาลburnt sienna กับสีน้ำเงินprussian blue ที่ไม่ใช้สีดำก็เพราะมันจะทำให้ภาพดูหม่นเกินไป
สำหรับเอนทรี่นี้ ผมได้ระบายทิ้งเอาไว้เพียงเท่านี้ (เพราะกลางคืน ผมจะระบายสีภาพไม่ได้ครับ แสงไฟนีออนมันหลอกตา+สายตาไม่ค่อยดี ทำให้ทำงานกลางคืนลำบาก)
เอาไว้เอนทรี่หน้า จะมาต่อให้เสร็จ แล้วก็แก้ไขงานเท่าที่จะแ้ก้ไขได้ครับ (คิดในใจ เอาน่า...นี่ถือเป็นงานแรกหลังหยุดมานาน ..ฮา)
สวัสดีครับ เจอกันอีกทีก่อนปีใหม่
ปล1 ใครมีอะไรอยากจะพูดคุยหรือถามไถ่เรื่องอะไร ก็พิมพ์คุยกันได้ที่chat blogด้านขวานะครับ (จริงๆมีตั้งนานมากแล้ว แต่ไม่มีใครเห็นมั้ง ฮา)
ปล2 จริงๆเอนทรี่ที่แ้ล้วบอกว่า เอนทรี่นี้จะเอารูปตัวละครใหม่ๆในการ์ตูนมาให้ดู...แต่ลืม..
ปล3 ใครรู้มั่งว่าเจ้าอินเดียอิงค์สี ยี่ห้อkentonมีขายที่ไหนบ้าง จริงๆผมถนัดเจ้าสีนี้มากเลย แต่หาซื้อไม่ได้มาหลายปีแล้ว ห่ะอยากได้!Undecided
v
v
v






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น